ทองคำวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดตลาดปรับตัวลดต่ำลง 11.23 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปิดที่ราคา 1,939.65 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาปรับตัวลดลงในช่วงการซื้อขายของตลาดยุโรป จึงเป็นเครื่องสะท้อนถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในยูโรโซนที่ชะลดตัวลง จึงเป็นปัจจัยกดดันยูโรให้ร่วงลงรุนแรง ส่งผลให้ดอลลาร์กลับมาแข็งค่าขึ้นอีกครั้งเป็นผลเชิงลบต่อราคาทองคำด้วย นอกจากการอ่อนค่าของยูโรแล้วยังมีแรงหนุนดอลลาร์เพิ่มมาจากมาร์กิตเปิดเผยว่า "ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI)" รวมภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นของสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นเกินคาดการณ์สู่ระดับ 54.7 ในเดือนสิงหาคม ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 18 เดือน ส่วนยอดขายบ้านมือสองก็พุ่งเกินคาดเช่นเดียวกัน ในส่วนตลาดความเสี่ยงก็ปิดปรับตัวพุ่งเช่นกัน ดาวโจนส์ปิดเพิ่ม 190.60 จุด S&P500 และ Nasdaq ก็ปรับสูงขึ้นเช่นกัน ทั้งหมดจึงเป็นปัจจัยส่งผลให้ราคาทองคำในวันศุกร์ปรับตัวลง 30 ดอลลาร์ต่อออนซ์จากราคาเปิดตลาดในวัน และปรับตัวต่ำสุดระหว่างวันที่ระดับ 1,911.13 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนจะมีแรงซื้อเข้ามาหนุนไว้ (BUY THE DIP) ทำให้ราคาทองคำลดช่วงติดลบลงไปได้บางส่วน ส่วนด้าน SPDR ยังไม่มีอะไรเพิ่มเติม ปัจจุบันถือครองทองคำที่ 1,252.38 ตัน
คำแนะนำการเทรดทองคำวันนี้
ทองคำยังอยู่ในช่วงแรงขายเขาครองตลาด จึงควรระมัดระวังหากราคาทองคำยังไม่สามารถยืนเหนือบริเวณ 1,946 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ก็มีโอกาสที่ตลาดจะขายทำกำไรออกมาอีก แนะนำให้รอซื้อกลับหากราคาอ่อนตัวลงมาที่บริเวณ 1,911-1,897 ดอลลาร์ต่อออนซ์
คำแนะนำการเทรดทองคำวันนี้
ทองคำยังอยู่ในช่วงแรงขายเขาครองตลาด จึงควรระมัดระวังหากราคาทองคำยังไม่สามารถยืนเหนือบริเวณ 1,946 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ก็มีโอกาสที่ตลาดจะขายทำกำไรออกมาอีก แนะนำให้รอซื้อกลับหากราคาอ่อนตัวลงมาที่บริเวณ 1,911-1,897 ดอลลาร์ต่อออนซ์