2021年6月24日
ทองคำตลาดนิวยอร์กวานนี้ปิดบวกขึ้น 6 ดอลลาร์ จากแดนล่าง 1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังเฟดคลายสัญญาณไม่เร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 6 ดอลลาร์ (+0.34%) ปิดที่ระดับ 1,783.4 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยปัจจัยแรงหนุนทางคำมาจากการที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวร่วงลงจากคำมั่นของเฟดที่ออกมายืนยันว่าจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงเวลาอันใกล้นี้ ทำให้ดัชนีดอลลาร์สหรัฐปรับร่วงลงมา สร้างปัจจัยหนุนทองคำกลับฟื้นขึ้นมาได้อีกครั้ง นายพาวเวลได้กล่าวต่อคณะอนุกรรมการว่าด้วยวิกฤตการณ์โควิด-19 ประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐว่า “เฟดมีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนตลาดแรงงานให้ฟื้นตัวเป็นวงกว้าง และเฟดจะไม่ใช้ความวิตกกังวลเกี่ยวกับเรื่องภาวะเงินเฟ้อมาเป็นแรงผลักดันให้ต้องเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไป” นอกจากนี้ก็ยังมีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาก่อนหน้ายังสะท้อนถีงความอ่อนแอของโครงสร้างระบบการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทั้งหมดจึงเป็นปัจจัยหนุนทองคำกลับมายืนเหนือระดับ 1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง ก็ต้องลุ้นกันต่อว่าจะไปได้ไกลแค่ไหน ในส่วนกรณีพิพาทระหว่างสหรัฐกับจีน เรื่องการส่งเรือรบเข้าประจำในพื้นของทะเลจีนใต้นั้น หลังจากที่ก่อนหน้าเกิดภาวะความตึงเครียดอีกครั้งหลังสหรัฐนำเรือรบเข้าแล่นผ่านช่องแคบใต้หวัน ซึ่งถือเป็นอาณาเขตของทะเลจีนใต้ แต่สหรัฐอ้างว่าเป็นการตรวจตราในบริเวณน่านน้ำสากลเท่านั้น จากความขัดแย้งดังกล่าวได้ถูกปรับลดความร้อนแรงลงหลังมีข่าวว่าจะมีการเจรจาทางการทูตระหว่างสหรัฐกับจีนถึงกรณีดังกล่าว ทำให้นักลงทุนคลายความกังวลในเรื่องดังกล่าวลงไป อาจทำให้ความน่าสนใจของทองคำถูกลดทอนลงไปด้วยเช่นกันประเมินทางเทคนิควันนี้ วันนี้ทองคำกลับมาอยู่เหนือระดับแนวรับ 1,774-1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง หลังจากที่ปรับขึ้นทดสอบแนวต้านระยะสั้น 1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ไม่สามารถฝ่าผ่านแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้ ทำให้ราคาทองคำช่วงเช้ามืดของวันนี้กลับมาแกว่งตัวเหนือบริเวณแนวรับ 1,767-1,774 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง ประเมินทางเทคนิคหากราคาทองคำยังสามารถยืนเหนือบริเวณแนวรับดังกล่าวได้อีกครั้ง มีแนวโน้มที่อาจเห็นการปรับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่บริเวณ 1,795 -1,803 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง แต่หากราคาทองคำยังคงมีแรงกดดันอีกรอบ มีโอกาสที่แนวรับระดับบริเวณ 1,767-1,774 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจต้องพังทลายในรอบใกล้ๆ นี้ ประเมินแนวรับถัดไปที่ 1,741 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้ติดตามเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับการทำ QE, ความขัดแย้งในทะเลจีนใต้, อินเดียวโดนปรับลดความน่าเชื่อถือจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 คืนนี้ติดตามรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญๆ ของสหรัฐดังนี้ 19:30 ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน (MoM) พ.ค. 19:30 ดัชนีจีดีพี (QoQ) (Q1) 19:30 จำนวนผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก (รายสัปดาห์) ช่วงเวลาดังกล่าวอาจสร้างความผันผวนต่อตลาดทองคำได้ จึงแนะนำสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ควรระมัดระวังในการเทรดซื้อคำสั่งในเวลาดังกล่าวด้วย กลยุทธ์การเทรดทองคำกรอบรายชั่วโมง Long Position : รอซื้อทองคำบริเวณแนวรับ 1,767-1,774 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคากลับมาทรงตัวได้ที่บริเวณดังกล่าว เน้นการเข้าทำกำไรระยะสั้น พิจารณาทำกำไรได้ที่บริเวณแนวต้าน 1,795-1,803 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวต่ำกว่า 1,767 ดอลลาร์ต่อออนซ์) แต่หากราคาทองคำสามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวได้นั้น ก็ให้ชะลอการปิดทำกำไรบางส่วนออกไปก่อน ประเมินแนวต้านบริเวณถัดไปที่ 1,825 ดอลลาร์ต่อออนซ์ Short Position : รอขายทองคำบริเวณแนวต้าน 1,795-1,803 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวได้ให้เปิดคำสั่ง “ขาย” เน้นการเข้าเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น ประเมินพิจารณาปิดทำกำไรได้ที่บริเวณแนวรับ 1,767-1,774 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวสูงกว่า 1,803 ดอลลาร์ต่อออนซ์)แนวโน้มทองคำในวันนี้ ----------------------------------------- 1H : Down trend ----------------------------------------- 4H : Down trend ----------------------------------------- DAY : Down trend ----------------------------------------- Week : Up trend ----------------------------------------- Month : Up trend -----------------------------------------แนวรับแนวต้านทองคำกรอบรายชั่วโมง --------------------------------------------------- Support : 1,767 / 1,741 / 1,709 --------------------------------------------------- Resistance : 1,795 / 1,803 / 1,826 ---------------------------------------------------สถานการณ์ถือครองทองคำของกองทุน SPDR - ถารถือครองทองคำ : ขายออก -2.91 ตัน - เข้าซื้อขายทองคำล่าสุดที่ระดับราคา : 1,778.15 $ - ปัจจุบันถือครองทองคำทั้งสิ้นสุทธิ : 1,046.56 ตัน - ปรับเปลี่ยนแปลงราคาทั้งสิ้น : 11 ครั้ง - รวมการเปลี่ยนแปลงการถือครองในเดือนทั้งสิ้น : +3.44 ตัน*การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณให้รอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง **การวิเคราะห์เป็นเพียงการตั้งค่าสมมุติฐานค่าสถิติจากอดีตถึงความน่าจะเป็นในปัจจุบันและอนาคต จึงไม่ได้เป็นเครื่องมือการันตีการทำผลกำไรจากการลงทุนได้ 100%