JAPAN:ญี่ปุ่นเผยเศรษฐกิจดีดตัวขึ้น 2.2% ใน Q2 แต่แนวโน้มมืดมนรับศก.โลกชะลอตัว
-เศรษฐกิจญี่ปุ่นดีดตัวขึ้นในไตรมาส 2 จากภาวะตกต่ำเนื่องจากโรคระบาดโควิด-19 แต่ก็ชะลอตัวกว่าที่คาดไว้ ซึ่งสะท้อนถึงความไม่แน่ใจที่ว่า การอุปโภคบริโภคจะขยายตัวพอที่จะหนุนการฟื้นตัวหรือไม่ และแม้ว่าการบริโภคที่เพิ่มขึ้นหนุนเศรษฐกิจในไตรมาสสอง แต่แนวโน้มดังกล่าวก็มืดมนขึ้นเนื่องจากการแพร่ระบาดอีกครั้ง, เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง, ภาวะจำกัดด้านอุปทาน และราคาวัตถุดิบที่พุ่งขึ้น ซึ่งทำให้ค่าครองชีพของภาคครัวเรือนสูงขึ้น
-จีดีพีในไตรมาสเดือนเม.ย.-มิ.ย.ขยายตัว 2.2% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการขยายตัวเป็นไตรมาสที่ 3 ติดต่อกัน แต่ก็ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 2.5% และเทียบกับที่เพิ่มขึ้น 0.1% ในไตรมาสแรก
-การขยายตัวทางเศรษฐกิจในไตรมาสสองได้แรงขับเคลื่อนหลักจากการบริโภคภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้น 1.1% แต่ก็ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 1.3% ขณะที่ธุรกิจต่างๆเปิดทำการอีกครั้งหลังการยกเลิกมาตรการควบคุมการแพร่ระบาด
การใช้จ่ายด้านทุนเพิ่มขึ้น 1.4% จากไตรมาสก่อน เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.8% ขณะที่อุปสงค์ในประเทศมีส่วนหนุนการเพิ่มขึ้นของจีดีพีในอัตรา 0.5%
-นายอัตสึชิ ทาเคดะ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของสถาบันวิจัยเศรษฐกิจอิโตชู กล่าวว่า "การอุปโภคบริโภค และการใช้จ่ายด้านทุนจะยังคงขับเคลื่อนเศรษฐกิจในไตรมาสเดือนก.ค.-ก.ย. แต่แรงหนุนส่งอาจจะไม่แข็งแกร่งนัก เพราะอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นจะชะลอการใช้จ่ายในภาคครัวเรือน และขณะที่อุปสงค์ในประเทศอาจจะขยายตัวต่อไป แต่การส่งออกที่ร่วงลงอาจทำให้การฟื้นตัวหยุดชะงัก"--จบ--
-เศรษฐกิจญี่ปุ่นดีดตัวขึ้นในไตรมาส 2 จากภาวะตกต่ำเนื่องจากโรคระบาดโควิด-19 แต่ก็ชะลอตัวกว่าที่คาดไว้ ซึ่งสะท้อนถึงความไม่แน่ใจที่ว่า การอุปโภคบริโภคจะขยายตัวพอที่จะหนุนการฟื้นตัวหรือไม่ และแม้ว่าการบริโภคที่เพิ่มขึ้นหนุนเศรษฐกิจในไตรมาสสอง แต่แนวโน้มดังกล่าวก็มืดมนขึ้นเนื่องจากการแพร่ระบาดอีกครั้ง, เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง, ภาวะจำกัดด้านอุปทาน และราคาวัตถุดิบที่พุ่งขึ้น ซึ่งทำให้ค่าครองชีพของภาคครัวเรือนสูงขึ้น
-จีดีพีในไตรมาสเดือนเม.ย.-มิ.ย.ขยายตัว 2.2% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการขยายตัวเป็นไตรมาสที่ 3 ติดต่อกัน แต่ก็ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 2.5% และเทียบกับที่เพิ่มขึ้น 0.1% ในไตรมาสแรก
-การขยายตัวทางเศรษฐกิจในไตรมาสสองได้แรงขับเคลื่อนหลักจากการบริโภคภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้น 1.1% แต่ก็ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 1.3% ขณะที่ธุรกิจต่างๆเปิดทำการอีกครั้งหลังการยกเลิกมาตรการควบคุมการแพร่ระบาด
การใช้จ่ายด้านทุนเพิ่มขึ้น 1.4% จากไตรมาสก่อน เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.8% ขณะที่อุปสงค์ในประเทศมีส่วนหนุนการเพิ่มขึ้นของจีดีพีในอัตรา 0.5%
-นายอัตสึชิ ทาเคดะ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของสถาบันวิจัยเศรษฐกิจอิโตชู กล่าวว่า "การอุปโภคบริโภค และการใช้จ่ายด้านทุนจะยังคงขับเคลื่อนเศรษฐกิจในไตรมาสเดือนก.ค.-ก.ย. แต่แรงหนุนส่งอาจจะไม่แข็งแกร่งนัก เพราะอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นจะชะลอการใช้จ่ายในภาคครัวเรือน และขณะที่อุปสงค์ในประเทศอาจจะขยายตัวต่อไป แต่การส่งออกที่ร่วงลงอาจทำให้การฟื้นตัวหยุดชะงัก"--จบ--